Last updated: 24 ธ.ค. 2567 | 123 จำนวนผู้เข้าชม |
พอช.ลุยใต้เร่งช่วยเกษตรกรสุราษฎร์แก้ไขปัญหาที่ดิน พัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านโครงการบ้านมั่นคง
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ทำการสหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) บ้านควรสระ ม.4 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี นายสยาม นนท์คำจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (ผช.ผอ.พอช) และคณะทำงานฯ พร้อมด้วยนายสุรชาติ มาลาศรี ผอ.สำนักบริหารโครงการกรมชลประทาน คณะทำงาน ฯ ซึ่งได้รับการประสานจาก นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาความเดือดร้อนของ สหพันธ์ เกษตรกรภาคใต้ (แปลงของบริษัทจิ้วก้วงจุ้ย จำกัด) ที่ได้เข้ามาทำประโยชน์ ในพื้นที่ปัจจุบันแล้วตั้งแต่ปี 2552 มีแปลงและผู้ครอบครองจำนวน 50 แปลงต่อราย ในที่ดิน สปก. หมายเลข 42 จำนวน 867-2-62ไร่ ซึ่งคนเหล่านี้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม
ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ได้มีการหารือร่วมกับนายธีรเนตร ไชยสุวรรณ ผู้ประสานงาน และสมาชิกของสหันธ์ฯ ซึ่งต่อสู้เรื่องการกระจายการถือของที่ดินมานาน และมีการรวมตัวกันในอุดมีการณ์ในการขับเคลื่อน “ ผืนป่าคือชีวิต พิทักษ์สิทธิเกษตรกร สร้างอธิปไตยด้านอาหาร เดินตามแนวเกษตรนิเวศน์ พบสภาพปัญหาของประชาชนและข้อเสนอที่ต้องการให้ภาครัฐดำเนินการช่วยเหลือ ได้แก่ 1.ราชการระดับจังหวัดไม่จัดสิทธิการใช้ที่ดินให้ถูกต้อง ใช้กฎหมายกับประชาชน ไม่ตรวจสอบและการแก้ไขไม่สอดคล้องกับประวัติศาสตร์และบริบทของพื้นที่ 2.ระบบสาธารณูปโภค ยังไม่มี (ไฟฟ้า ประปา ) 3.ประชาชนประสงค์ให้การจัดที่ดินแบบกรรมสิทธิ์ร่วมกัน เคารพกระบวนการของประชนที่ เรียกร้องมายาวนาน รัฐได้สร้างเงื่อนไขขึ้นมาใหม่จึงไม่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีรองรับ เมื่อ 26 สิงหาคม 2546 และ 4.ประชาชนไม่สามารถทำประโยชน์เต็มศักยภาพได้ เพราะมีต้นปาล์มหมดอายุการให้ผลผลิตแล้วและไม่สามารถโค่นต้นปาล์มปลูกใหม่ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับ สปก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาที่ดิน และการพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านโครงการบ้านมั่นคงของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ในคราวที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(ตำแหน่งตำแหน่งในขณะนั้น) ลงเยี่ยมสหพันธ์ฯ ทราบปัญหาความเดือดร้อนจึงได้มีข้อสั่งการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันประชาชนได้มีบ้านเลขที่ทั้งหมด 50 หลังคาเรือน มีถนนหลักของชุมชนโดยใช้งบกองทุน สปก. ก่อสร้างถนนความยาว 3.3 กิโลเมตรซึ่งทำให้ประชาชนเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยประชาชนได้ขอบพระคุณ ร.อ. ธรรมนัส มาด้วยในครั้งนี้.