ยุค”ลุงตู่”ยาแรง-ซ่าปิดโรงเรียน “นักเรียน-นักเลง”ยอมสยบ 

Last updated: 2 ก.ค. 2567  |  4158 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ยุค”ลุงตู่”ยาแรง-ซ่าปิดโรงเรียน “นักเรียน-นักเลง”ยอมสยบ 

นักเรียน-นักเลงเงียบกริบไม่กล้าก่อเหตุ ยุค“ลุงตู่”เปิดศึกตีกันเจอประกาศิต“ปิดโรงเรียน”เหลือแค่ตำนานที่ไม่มีตัวตน ยาแรงได้ผลหายซ่าไปพักใหญ่ กระทั่งมาเกิดเหตุจ่อยิงโหดฆ่ากลางกรุง 2 ศพ ครูสาวถูกลูกหลงอีก 1 คน มาตรการผ่อนปรนฟื้นคืนชีพวิชาจริยธรรม-ประวัติศาสตร์ปลูกจิตสำนึกน่าจะไม่ได้ผล!!!
 
-เหตุนักเรียน-นักเลงฆ่ากันตาย-เปิดศึกไล่ตีทำร้ายคู่อริช่วงนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง เหตุดังกล่าวอาจทำส่งผลกระทบต่อ “บิ๊กตำรวจ”เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ เนื่องจากก่อนหน้า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.มีคำสั่ง คาดโทษผู้การจังหวัดฯต้องรับผิดชอบ หากพื้นที่ไหนเกิดเหตุนักเรียน-นักเลงก่อเหตุอีก!!! ล่าสุดเกิดเหตุอีกจนได้เมื่อเด็กอาชีวะบุกยิงอริเทคนิคดุสิตตายกลางวันแสก ๆ ทั้งที่เหตุยิงมั่วทำให้ 'ครูเจี๊ยบ'เสียชีวิตยังจับมือปืนไม่ได้...ตอนนี้สังคมกำลังจับตาว่า...ประกาศิต“บิ๊กต่อ”ที่พูดไปก่อนหน้าว่าจะเป็นจริงอย่างที่พูดหรือไม่!!!

-บอกตรง ๆ ยุคนี้ถือเป็นผ่อนปรน ยาบ้า10เม็ดคือผู้เสพ-ไม่มีเงินใส่ซองงานเลี้ยงช่วยล้างจาน-ฟื้นวิชาจริยธรรม-คืนชีพวิชาประวัติศาสตร์ ปลูกจิตสำนึกแก้ปัญหาเด็กต่างสถาบันยกพวกตีกัน ฯลฯ มาตรการเอาน้ำเย็นเข้าลูบน่าจะไม่ได้ผล!!! เด็กมันไม่ได้เอาหนังสติ๊กมายิงกันนะท่าน มันเอาปืนมาฆ่านะเว้ยเฮ้ย...มันคืออาชญากรอาชีวะ ถึงเวลาใช้ยาแรงแล้วครับจ้าวนาย...จำได้ว่ายุค“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เคยกล่าวถึงปัญหาเรื่องนักเรียนตีกันว่าต่อไปนี้หากเกิดปัญหานักเรียนตีกันจะสั่งให้ปิดคณะที่มีปัญหาทันที และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีปัญหาที่โรงเรียนก็จะปิดโรงเรียน และทุกคนจะต้องถูกดำเนินคดี...เฉียบขาด-เงียบกริบไม่กล้าก่อเหตุ...บอกเลย“ลุงตู่”แกเป็นเจ้าพ่อทุกโรงเรียนของจริง...อะไรดีผมก็ว่าดี (ยืมคำคุณบุ๋ม-ปนัดดามาใช้)เชื่อเหอะเจอยาแรงสถาบัน-ครูบาอาจารย์-รุ่นพี่ที่จบไปแล้วกลัวเดือดร้อน...เขาปิดโรงเรียนที่รักที่บูชาทนไหวเหรอ...จะเหลือก็แค่ตำนานที่ไม่มีตัวตน!!!

-จำได้ว่าสมัยทำงานข่าวอยู่สื่อแห่งหนึ่ง “เหยี่ยวขาว”เคยเขียนเรื่องราวลักษณะนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ทุกครั้งญาติผู้สูญเสียก็จะพูดทั้งน้ำตาว่า “ขอให้ลูกเป็นรายสุดท้ายที่ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับอริต่างสถาบัน” แต่วันเวลาผ่านไปทุกอย่างยังเหมือนเดิม และมีท่าทีว่าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น การก่อเหตุมีการวางแผนชัดเจน เป้าประสงค์คือ“ฆ่ามัน”จากการที่สนิทสนมกับน้อง ๆ อาชีวะหลายต่อหลายสถาบันฯ มีเด็กคนหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า ช่วงเรียนช่างฯวันหนึ่งหลงกลุ่มไปเที่ยวห้างฯคนเดียว บังเอิญไปเจอกับผู้ชายทรงเด็กอาชีวะ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อ้างตัวว่าเป็นรุ่นพี่เคยเรียนสถาบันเดียวกัน แต่จบไปนานแล้วเดินเข้ามาตีสนิทพูดคุยสอบถามอย่างเป็นกันเอง เลี้ยงสารพัดไม่ว่าเหล้า-บุหรี่หรืออะไรก็ตามจัดให้หมด!!!


ขอบคุณภาพประกอบ...เดลินิวส์ออนไลน์

-เมื่อเมาได้ที่เขาก็ชวนไปกินต่อ รุ่นน้องไม่เอ่ะใจตามไปด้วยผลคือติดกับดักเต็ม ๆ เจออริต่างสถาบันอุ้มตัวไปรุมยำ จับมือจับเท้าก่อนจะใช้เหล็กรูปฟันเฟืองเผาไฟจนร้อนนาบที่หน้าอก เหยื่อร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ความเจ็บปวดยิ่งกว่าคือ แผลตราบาปความผิดพลาดของตัวเอง ผู้ถูกกระทำเองไม่ได้เข้าแจ้งความเพราะอาย รอเพียงวันเอาคืนล้างอายด้วยวิธีเดียวกัน....ยุคนั้นเล่นกันหนักก็จริง!! เอาให้อายไม่ถึงกับต้องฆ่ากันตายเหมือนยุคนี้!!!.

   “เหยี่ยวขาว”

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้