ปฏิบัติการ“วิสามัญฯ”ต้องมี จับตายวายร้ายเพื่อ“สังคมสงบสุข”

สังคมจะสงบสุขได้อย่างไร เมื่อคนร้ายไม่เกรงกลัวกม.บ้านเมือง ปฏิบัติการ“วิสามัญฯ”จำเป็นต้องมี เพื่อให้สังคมสงบสุข มือปราบฯเปรย “เมื่อคุกไม่ทำให้กลับเนื้อกลับตัวยังก่อเหตุซ้ำรอยเดิม เพื่อป้องกันสุจริตชนคนดี ๆ ต้องตกเป็นเหยื่อจำต้องส่งพวกมันไปเกิดใหม่”

-เรียบร้อยโรงเรียนสืบสวนฯภาค1 สำหรับคดีนายเฉลิม บัวอ่อน ก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านซักผ้า(แบบหยอดเหรียญ) จ.ปทุมธานี ก่อนจะหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี  ขอชมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม รวมถึง พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 ที่แกะรอยตามสืบหาเบาะแสตั้งแต่วันเกิดเหตุ 28 ต.ค.ก่อนจะมาปิดฉากวิสามัญฯคนร้ายเนื่องจากยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่วันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา!!!

-นานมากแล้วสำหรับปฏิบัติการ“จับตาย”ที่เราไม่เคยเห็นตำรวจงัดออกมาใช้เลย!!ส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้เกิดความรุนแรงแต่อย่างใด และไม่นิยมความรุนแรงด้วย แต่ในบางครั้ง-บางคดีพฤติกรรมที่คนร้ายก่อเหตุด้วยความเหี้ยมโหดไม่เหลือความเป็นมนุษย์ให้กับเหยื่อหรือผู้เสียหายที่ต้องเจ็บปวดทรมานก่อนจะเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตา...หลายคดีตำรวจตามจับผู้ก่อเหตุได้ เมื่อไร้ซึ่งอิสรภาพการยอมรับสารภาพคือคำตอบสุดท้ายที่จะรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้!!ติดคุกตลอดชีวิตเหรอเด็กๆ ประพฤติตัวดี-ลดโทษไม่นานก็ออกมาสู่โลกภายนอก(ก่อเหตุ)อีกครั้ง มันเป็นวัฏจักรที่เป็นเรื่องจริงสำหรับคนบางคนที่เลวโดยสันดาน!!!

-หลายคดีที่ผ่านมามักจะเห็นญาติพี่น้องเหยื่อ หรือสังคมเองต่างออกมาเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุต้องได้รับโทษสถานหนัก-ประหารตายตกไปตามกัน แต่ด้วยประเด็นบางอย่างมันทำไม่ได้ จนเกิดมีวลีเด็ด“โทษประหารก็เหมือนผี รู้ว่ามีแต่ไม่เคยเห็น”!!เราจะเห็นว่าบางประเทศนิยมใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรงกับผู้กระทำความผิด เรียกว่าตาต่อตาฟันต่อฟัน ส่งผลทำให้คดีหรือการก่อเหตุลดน้อยลงหรือแทบจะไม่เกิดขึ้นเลยในประเทศนั้น ๆ เนื่องจากผู้ที่คิดจะก่อเหตุกลัวโทษรุนแรงที่จะได้รับ หากมองด้วยเหตุและผลบอกเลยว่า...ใช่!!!  

-ย้อนไป 10 ปีก่อนวงการตำรวจไทยมีนักสืบที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมือปราบฯระดับพระกาฬอยู่หลายท่าน แต่ละคนฝากผลงานให้กับสังคมนี้มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะสยบแก๊งค้ายา-เด็ดหัวโจรร้ายฆ่าชิงทรัพย์ ฆ่าข่มขืน ฯลฯ เรียกว่าเหล่ามิจฉาชีพขยาดไม่กล้าเข้าพื้นที่ เหตุมาจากการทำงานที่ถึงลูกถึงคน ไม่เกรงกลัวอิทธิพลใดๆ...มือปราบท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า “ในเมื่อเจ็บ-จำ(คุก)ไม่ทำให้พวกมันกลับเนื้อกลับตัวยังกล้าก่อเหตุซ้ำรอยเดิม เพื่อป้องกันสุจริตชนคนดี ๆ ต้องมาตกเป็นเหยื่อสมควรไปเกิดใหม่ ผมเป็นตำรวจอาชีพ ไม่ใช่อาชีพตำรวจ ภารกิจคือปราบคนพาล อภิบาลคนดี”!!! 

-น่าเสียดายยุคนี้จะหาตำรวจมือปราบที่เหล่าร้ายได้ยินชื่อแล้วผวาเกรงขามแทบไม่มีเลย ทำงานแบบเซฟตัวเองดีที่สุด...อย่างว่าการทำงานของตำรวจ สิ่งสำคัญที่สุดคือ“นาย”ผู้บังคับบัญชาต้องให้กำลังใจ และพร้อมช่วยเหลือเมื่อพวกเขาผิดพลาด...ประเภทผลงานเอา-พลาดไม่เหลียวแลคงไม่มีใครกล้าทำงานใหญ่ให้แน่นอน!! ที่เขียนมาย้ำว่าไม่ได้ตำหนิติเตียนผู้ใด แต่อยากให้ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คิดบ้างว่าท่านมีหน้าที่ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย เมื่อถึงเวลาก็ต้องงัดไม้แข็งมาใช้กับพวกเดนนรกบ้าง อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวลสังคมจะได้สงบสุข!!!

ประชาสัมพันธ์ส่องตำรวจ-ตรวจโรงพัก

-เซฟตี้โซน...พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง และผู้ประกอบการโรงแรม ร้านค้า ห้างทอง เครือข่ายภาคเอกชนและท่องเที่ยวเมืองเบตง และภาคประชาชน เข้าร่วมประชุมภาคีเครือข่ายป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกประจำสถานีตำรวจธรเบตง (Big Six) ตามโครงการ เบตง สมาร์ท เซฟตี้ โซน 4.0” (BETONG SMART SAFETY ZONE 4.0) ในการเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกการทำงานของตำรวจให้ตรงกับสภาพปัญหา และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง โดยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด ทั้งนี้เพื่อรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวในการเปิดเมืองเบตงอย่างปลอดภัย-ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง!!

-ส่งส่วยใคร...หลังสืบทราบมีการลักลอบเปิดพนันมวยตู้ในพื้นที่ พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ไม่รอช้านำกำลังบุกเข้าจับกุมทันทีได้ผู้ต้องหาจำนวนหนึ่ง ที่น่าตกใจเจ้าของบ่อนอ้างว่าส่งส่วยให้กับข้าราชการคนหนึ่ง เส้นใหญ่เคลียร์ทางไว้เรียบร้อยแล้ว...งานนี้คงต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของจังหวัดฯเร่งตรวจสอบโดยด่วน...ต้องจับตาดูว่าจะสาวถึงใคร รับรองสะเทือนทั้งจังหวัดฯแน่นอน!!

-เมืองอัจฉริยะ...พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.ท.เตชทัต เนตรุวงค์ รอง ผกก.ป.เข้าพบ นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเมืองฉะเชิงเทรา หารือขอคำแนะนำในการดำเนินโครงการ smart safety zone 4.0 ในการขับเคลื่อนโครงการ ตามนโยบายของ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัย ลดความหวาดกลัวภัยอาชญากรรม โดยคัดเลือกพื้นที่ที่เป็นแลนด์มาร์คแหล่งเศรษฐกิจ วัดโสธรวรารามวรวิหาร และชุมชนโดยรอบเป็นพื้นที่นำร่อง โดยจะนำเทคโนโลยีมาใช้ดูแลความปลอดภัยประชาชนตามคอนเซปต์ 'เมืองอัจฉริยะ'ที่สำคัญจะแสวงหาความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สร้างกลไกการมีส่วนร่วมป้องกันอาชญากรรมเชิงรุกสร้างสังคมปลอดภัยยั่งยืนร่วมกัน!!

-ตรวจฉี่ตร....พ.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ ผกก.สภ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มอบหมายให้ พ.ต.ท.เกริกธนากรณ์ สิงห์สถิตย์ รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.พงศ์พิสิษฐ์ ปัญญา สวป.นำข้าราชการตำรวจ สภ.เนินมะปราง ทุกนายตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยดำเนินการตามโครงการตำรวจสีขาว เพื่อให้พี่น้องประชาชนชนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธาต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อทางราชการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ในการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติ ไม่ให้ ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีจริยธรรม และจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยผลการตรวจปัสสาวะข้าราชการตำรวจ สภ.เนินมะปรางทุกนาย ไม่พบว่ามีข้าราชการคนใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด!!

-ปล่อยแถว...ร้อยตรีพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าฯกาญจนบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ทหารกองพลทหารราบที่ 9 ฝ่ายปกครองฯ มูลนิธิในจังหวัดฯ ร่วมปล่อยแถวป้องกันอาชญากรรมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นองค์การบริหารส่วนตำบล ในวันที่ 28 พ.ย.ในส่วนภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 11-20 พ.ย. พร้อมกันทั่วประเทศ มุ่งเน้นการจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมมือปืนรับจ้าง ผู้มีอิทธิพล  การป้องปรามการทุจริต และการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง อีกทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน!!

คอลัมน์...ส่องตำรวจ-ตรวจโรงพัก

           “เหยี่ยวขาว”