16-25 มี.ค.นี้เชิญเที่ยวงานสักการะสมเด็จพระนเรศวรฯย้อนอดีตเมืองลุ่มภู

ย้อนอดีตเมืองลุ่มภู...งานสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 16-25 มี.ค.64 ชมการแสดงแสงสี เสียง ตำนานนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ตอน “แผ่นดินนี้ที่เราร่วมคุ้มครอง หนองบัวลำภู”ร่วมสืบสานงานแพรพรรณลุ่มภู ที่สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา บิรเวณลานวัฒนธรรม สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองหนองบัวลำภู นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมนายวัชรินทร์ สุตลาวดี ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู นายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู นางสาวพัชนี สภา วัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู และผู้แสดงนำในตำนานนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ตอน “แผ่นดินนี้ที่เราร่วมคุ้มครอง หนองบัวลำภู”ร่วมแถลงข่าวการจัดงานงานสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ระหว่างวันที่ 16-25 มี.ค.นี้ ที่สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมืองหนองบัวลำภู โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรภาคเอกชนร่วมฟังการแถลงข่าว

นางศิวพร  กล่าวว่าเมื่อประมาณ 1 พันปีผ่าน หนองบัวลำภูอยู่เย็นอยู่เหย้าด้วยการค้ำครองป้องกันมาแต่อดีตกาล สืบแผ่นดิน สืบเหล่าชนชาติเชื้อมาสู่การร่วมดูแล แผ่ขยายกระจายเผ่าพงษ์พันธ์ จากอดีตกาลนานสมัย สู่ยุคแห่งบ้านเมืองเรืองวิไล หากแต่ใครเล่าจะล่วงรู้บ้านเรา เมืองเราที่อยู่มาก่อนเก่า รักษาอยู่ยงคงมาได้ ก็มาจากบรรพบุรุษ และหนองบัวลำภู ของเรานั้นมีชื่อแต่ก่อนเก่าว่า…เมืองหนองบัวลุ่มภู เมืองกมุทาสัย หรือนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดีและประวัติศาสตร์เชื่อว่า เป็นเมืองที่มีความเจริญเก่าแก่ตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ

สมเด็จพระมหาธรรมราชาฯ และสมเด็จพระนเรศวร ที่มีพระเนตรกว้างไกลว่าจะทำอย่างไร ขณะที่สมเด็จพระนเรศวรทรงประชวรด้วยไข้ทรพิษ เราจะถอยทัพ หรือจะออกสู้ศึกต่อในระหว่างการรั้งรอการรักษา เราต้องเตรียมฝึกคนเพื่อเที่ยวป้องกันค่ายไว้ ไม่ให้ถูกจู่โจม พร้อมที่จะเลือกที่นี่ ณ บริเวณริมหนองบัว อันมีปราการทางธรรมชาตินี่คือเทือกเขาภูพานสูงตระหง่านที่จะสามารถป้องกันข้าศึกศัตรู พร้อมก่อสร้างค่ายคูประตูหอรบ กำแพงคูเมืองล้อมรอบพร้อมประตูเวียงอย่างแน่นหนา และขอ สถาปนาเวียงแห่งใหม่นี้ว่า "เวียงใหม่นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน" ซึ่งจะเป็นเมืองเอกเทศราชไม่ขึ้นตรงต่ออาณาจักรใด พวกเราต่อแต่นี้ต่อไป เราจะรวมพลังกัน ของคนทุกรุ่นทุกวัยก้าวไปด้วยความรักและสามัคคี ใต้ร่มพระบารมี เราทุกคนไม่ว่าชนชาติเชื้อใดเราคือน้องพี่ที่จะร่วมใจกันสร้างบ้านแปงเมือง นี่คือที่มาของจังหวัดหนองบัวลำภู คร่าวๆในปัจจุบัน

ผู้ว่าฯหนองบัวฯ เล่าต่อว่า จากอดีตที่ผ่านมาเมื่อ 28 ปี 1 ธค.36 จังหวัดหนองบัวลำภู ก่อตั้งเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู และเมื่อถึงวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ทั้งภาครัฐและเอกชนจะร่วมใจกันจัดงานสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และงานกาชาดจังหวัดหนองบัวลำภู แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบกับทุกกิจกรรม การดำเนินชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไป ซ้ำร้ายส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหลีกหนีไปพ้น การจัดกิจกรรมทุกอย่างต้องยกเลิกและเลื่อนไปโดยไม่มีกำหนด และเช่นเดียวกันกับการจัดงานสักการะสมเด็จพระนเรศวรมหาราช-งานกาชาดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นงานที่ส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรม การท่องเที่ยว งานสาธารณประโยชน์ และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดหนองบัวลำภู ต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ 16-25 มี.ค.ที่สนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ร่วมงานแบบวิถีใหม่ห่างไกล โควิด-19

ด้านนางสาวพัชนี สภา วัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู บอกต่อว่า ภายในงานช่วงวันดังกล่าว สิ่งที่พี่น้องผู้นำสตรีทุกอำเภอรอคอยและเรียกร้องอยากเห็นการรวมพลังสตรีร่วมรำบวงสรวง และปีนี้ความตั้งใจของผู้นำสตรีจะแต่งตัวด้วยเสื้อสีชมพู ผ้าถุงสีเข้ม สไบสีเข้ม ดอกไม่สีขาวหรือชมพู ร่วมฟ้อนรำที่ในท่ารำเดียวกันกว่า 2 พันคน เพื่อรำบวงสรวงดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในช่วงบ่ายวันที่ 16 มี.ค.

นอกจากนี้จะมีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ดูหมอลำ เพลิดเพลินไปดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง ชมหุ่นฟางยักษ์ขนาดใหญ่ไก่ชนหางขาว ควายดำค้ำคูณ ชื่นชมกับรำวงคองก้า และสินค้าทางวัฒนธรรม และที่จะพลาดชมไม่ได้นั่นคือการแสดงแสง สีเสียง อลังการตำนาน นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน “แผ่นดินนี้ที่เราร่วมคุ้มครอง หนองบัวลำภู”จากนักแสดงมืออาชีพ โดยจัดให้มีการแสดงเต็มรูปแบบ 5 รอบการแสดงเต็มๆในวันที่ 16,17,19,20,และวันที่ 21 มีค.64 แบบลุ้นขอบเวทีดูฟรีไม่เสียตังค์

ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวทิ้งท้ายไฮไลท์ของงานนี้ อยู่ที่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าพื้นเมืองหนองบัวลำภู การจัดกิจกรรมแพรพรรณลุ่มภู สู่สากล EPISODE 4 พร้อมเดินหน้าเพิ่ม ศักยภาพของสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สำคัญของจังหวัดหนองบัวลำภู สำหรับ เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อจะต้องมีติดไม้ติดมือกลับไป พร้อมกิจกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งเป็นสินค้าแสดงถึง อัตลักษณ์หรือทอออกมาก็มีคุณภาพ เมื่อได้สัมผัสก็นุ่ม หากเราซื้อฝากใครแล้วผู้ได้รับจะชอบมาก และยังมีเสื้อผ้า ถ้านึกถึง ผ้า คุณจะต้องนึกถึงหนองบัวลำภู มีทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย ถือว่าเป็นแหล่งผลิตใหญ่สำเร็จรูปที่ทันสมัย สวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงมีบริการตัดเย็บไว้บริการให้ลูกค้าที่มาเลือกซื้อผ้าด้วย

นอกจากนั้นยังมีข้าว เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ขึ้นชื่อว่าราชินีข้าวเหนียว มีข้าวเหนียวผัวหลง และข้าวฮาง ที่เป็นสินค้าขึ้นชื่อ เป็นข้าวที่มีลักษณะพิเศษ เมื่อนำไปนึ่ง จะมีความหอม นุ่ม ทานอร่อยมาก
นอกจากนั้นภายในงานยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทปลา ให้นึกถึง ปลาส้ม ไม่ว่าจะเป็นปลาส้มตัว ปลาส้มฟัก ปลาสายเดี่ยว ปลาแห้งนอกจากนี้แล้ว ยังมีของฝากขึ้นชื่ออื่นๆ เช่น มีผลิตภัณฑ์น้ำผึ้ง เป็นน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ กระติ๊บข้าวเหนียวจากคล้า มีทุกไซส์ ทุกขนาด ในราคาย่อมเยา และมีสินค้าอื่นๆ ที่มีคุณภาพมากมาย จำหน่ายในงานครั้งนี้ มากกว่า 60 บูธ มีการแสดงดนตรีโฟล์คซอง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย (เครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้า OTOP )

พิเศษสุดยังมีกิจกรรมประกวดแพรพรรณลุ่มภู มีการประกวดอาหารพื้นถิ่น การประกวดแฟชั่นโชว์ผ้าไทยเด็ก (Fashion Kids) เดินแฟชั่นโชว์มากกว่า 24ทีม มีการประกวดแต่งกายผ้าพื้นเมือง ท้ายสุดทุกวันขอเชิญหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน สถาบันการศึกษา พ่อค้าและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกันสวมใส่ผ้าพื้นเมืองมาเที่ยวงานฯ "ออนซอนของกิน วิถีถิ่นผ้าพื้นเมืองหนองบัวลำภู" พร้อมร่วมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การประกวดผ้าไทย ลายพระราชทาน "ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ" ทุกกิจกรรมมีเงินรางวัลการประกวดแข่งขัน.

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์-หนองบัวลำภู.