Last updated: 29 ต.ค. 2567 | 139 จำนวนผู้เข้าชม |
"บิ๊กปู"ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรับทหารใหม่เมืองลพบุรี ด้านกรมยุทธศึกษาทหารบกเปิดศูนย์ฯ ติดตามและขับเคลื่อนการฝึกทหารใหม่อย่างเป็นระบบ
ช่วงสายวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พร้อมด้วยเจ้ากรมกำลังพลทหารบก เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทหารบก,เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และคณะผู้บังคับบัญชาเดินทางไปตรวจเยี่ยมติดตามความพร้อมการเตรียมการรับทหารใหม่ที่จะเข้ากองประจำการในวันที่ 1 พ.ย.67 นี้ ที่หน่วยฝึกทหารใหม่ในพื้นที่กองพลทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี โดยผบ.ทบ.ได้รับฟังบรรยายสรุปการเตรียมการรับทหารใหม่ ตามกรรมวิธีรับทหารใหม่ และแนวทางการฝึกที่กรมยุทธศึกษาได้กำหนด ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ ที่กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 723 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 72 พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลอานันทมหิดล ในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันอุบัติเหตุ อาทิ การอบรมทักษะการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน, การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากโรคลมร้อน, การฟื้นคืนชีพ (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัต (AED), การจัดเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เพื่อประเมินอาการต่างๆ และสามารถให้การช่วยเหลือได้ในทันที
โอกาสนี้ ผบ.ทบ.ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทุกนาย โดยขอบคุณที่ได้ตั้งใจเข้าร่วมการฝึกทบทวนในห้วงที่ผ่านมาเพื่อเตรียมการด้านต่าง ๆ เป็นอย่างดี ซึ่งขอให้นำความรู้ และแนวทางการฝึกที่ได้รับไปใช้ในการดำเนินการภายในหน่วยฝึกอย่างเต็มที่ โดยผู้บังคับหน่วยทุกระดับต้องให้ความสำคัญต่อการฝึกทหารใหม่ ต้องกำกับดูแล ตรวจเยี่ยมและใส่ใจทหารใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงแรกถือเป็นระยะของการปรับตัว ผู้ฝึก และครูผู้ฝึกต้องร่วมกับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และเสนารักษ์ทำการคัดกรอง ประเมินสภาพทหารใหม่ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างละเอียด พร้อมจำแนกกลุ่มตามเกณฑ์ที่กรมแพทย์ทหารบกได้กำหนด เพื่อทำการฝึกเสริมสร้างอย่างเหมาะสม จากเบาไปหาหนักและสอดคล้องตามสภาพแวดล้อม ภายใต้มาตรฐานการฝึกของกองทัพบก รวมทั้งให้มีการดูแลป้องกันอาการบาดเจ็บและโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฝึก เพื่อไม่ให้มีโรคระบาดและการสูญเสียในหน่วยฝึก และเพื่อให้ทหารใหม่มีความเข้มแข็ง ปลอดภัย มีระเบียบวินัย เข้าใจในทักษะต่างๆ ทางทหาร
ขณะเดียวกันหน่วยฝึกทหารใหม่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องการสื่อสารควบคู่ไปกับการฝึก ทั้งการสร้างความเข้าใจกับทหารใหม่ ชี้แจงสิทธิและสวัสดิการที่จะได้รับ, การเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำทหารใหม่, การประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนให้เข้าถึงโอกาสต่างๆ อาทิ การศึกษา การประกอบอาชีพ และการต่อยอดในเส้นทางทหารอาชีพ ตลอดจนการติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและญาติทหารใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้เข้าใจ คลายความกังวล และเป็นกำลังใจให้กันและกันตลอดการฝึก
สำหรับการเตรียมความพร้อมของหน่วยฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารบกได้ถอดบทเรียนการปฏิบัติในห้วงที่ผ่านมา และกำหนดให้ 303 หน่วยฝึกทหารใหม่ทั่วประเทศ คัดสรรกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการฝึกทุกนาย ซึ่งจะต้องผ่านการตรวจประเมินความรู้จากกรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ ฝึกอย่างถูกต้อง รวมทั้งสามารถรับฟังและให้คำแนะนำทหารใหม่ได้ตลอดระยะเวลาการฝึก, ด้านสถานที่ ทั้งที่ประกอบกิจกรรมการฝึก โรงนอน โรงประกอบเลี้ยง และระบบสุขาภิบาล ที่จะต้องมีสภาพพื้นที่ที่เหมาะสม สะอาด และอากาศถ่ายเทได้สะดวก,ด้านรูปแบบการฝึก ตลอดจนการจัดให้มีอัตราส่วนครูพี่เลี้ยง ระหว่างครูนายสิบ (นายทหารชั้นประทวน), ครูทหารใหม่ (พลทหารที่ประจำการครบ 1 ปี) และทหารใหม่ ในอัตรา 1 : 1 : 8 นาย และการจัดให้มีระบบบัดดี้ทหารใหม่ เพื่อเป็นที่ปรึกษาระหว่างกันตลอดการฝึก รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์อำนวยการและกำกับดูแลการฝึกทหารใหม่ (CCIR) เพื่อติดตามและร่วมขับเคลื่อนการฝึกอย่างเป็นระบบ ซึ่งปัจจุบันทุกส่วนได้เตรียมการเป็นที่เรียบร้อย พร้อมรับทหารใหม่ที่จะเข้ารายงานตัว ที่หน่วยทหารตามกำหนด ในวันที่ 1 พ.ย.67 นี้.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...ทัพหลวงนิวส์-ดอก สามัคคีสี่เหล่า.
12 พ.ย. 2567