Last updated: 26 ก.ย. 2567 | 1885 จำนวนผู้เข้าชม |
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบินคลี่คลายสถานการณ์ กรณีมีผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิดบนเครื่องบินของสายการบินไทย เวียตเจ็ท ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบิน
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ก.ย.) เวลา 14.18 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งผ่านศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศว่า มีการข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานของสายการบินไทย เวียตเจ็ท เที่ยวบิน VZ961 จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผู้โดยสาร 121 คน เป็นทารก 1 คน มีนักบิน และลูกเรือ รวม 6 คน
โดย ทสภ.ได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับสายการบินและได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน บทที่ 3 เรื่องการขู่วางระเบิด และได้ประสานหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ทีมแพทย์และพยาบาล ทสภ. เข้าปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการตามแผนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยทันที เบื้องต้นได้นำอากาศยานดังกล่าวเข้าหลุมจอด Isolate Aircraft Parking Position ฝั่งทางทิศตะวันออกของอากาศยาน และได้ลำเลียงผู้โดยสารพร้อมลูกเรือออกจากอากาศยานโดยทันที
หลังจากนั้นนำผู้โดยสารไปพักรอที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ทสภ. ฝั่งตะวันออก โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ดำเนินการตรวจค้นร่างกาย และสัมภาระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) เข้าดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าทุกชิ้นที่บรรจุใต้ท้องเครื่องและตรวจสอบอากาศยานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีวัตถุต้องสงสัยเป็นวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ทสภ. จึงได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนเผชิญเหตุในเวลา 16.31 น. โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้นำผู้โดยสาร และลูกเรือทั้งหมดไปส่งยังขั้นตอนผู้โดยสารขาเข้าปกติต่อไป เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการให้บริการของสนามบินแต่อย่างใด
นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากผู้โดยสาร เพศหญิงสัญชาติโปแลนด์ ข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานขณะทำการบิน แต่อย่างไรก็ตาม ทสภ. ได้นำตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 5 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 600,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ทสภ. ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงสุดพร้อมสร้างความมั่นใจ ให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการอย่างดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...วุฒณ์-สมุทรปราการ.