Last updated: 12 ก.ย. 2567 | 296 จำนวนผู้เข้าชม |
BangkokAI จับมือช่างกลปทุมวัน เปิดหลักสูตร AI Software Architect & Analyst (AIAA รุ่นที่1) ให้ความรู้เท่าทัน AI ทั้งในด้านการพัฒนา การป้องกัน รวมถึงสร้างผู้นำมืออาชีพด้าน AI ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจให้มีความเข้าใจ-พัฒนาที่ยั่งยืน
วันที่ 12 ก.ย. BangkokAI และพันธมิตรจับมือช่างกลปทุมวันเปิดหลักสูตร AI Software Architect & Analyst (AIAA รุ่นที่1) โดยมีการเชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากผู้ทรงคุณวุติมาเติมเต็มเสริมความรู้ด้าน AI ในทุกมิติ โดยเฉพาะผู้นำภาคเอกชน และหน่วยงานเข้าอบรม เมื่อวันที่ 7-8 ก.ย.ที่ผ่านมาโดยหลักสูตรดังกล่าวจะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ AI ตั้งแต่ LLM, AI Inference Engine RAG AI Generative Media & Stable Diffusion จนถึง Deep Fake และ Voice Fake
โดยมีการเชิญวิทยากรระดับท็อปของเมืองไทยพร้อมถ่ายทอดความรู้แบบจัดเต็ม 3 วันเต็ม เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทั้งจากด้านอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ตลอดจนนักศึกษา ได้เก็บเกี่ยวความรู้ด้าน AI อย่างแท้จริง รวมถึงการเรียนรู้กลยุทธ์เตรียมความพร้อมการใช้ AI ในหน่วยงาน ในองค์กร
ดร. ศักดิ์ เสกขุนทศ Senior Master Advisor BangkokAI อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA: Digital Government Agency) กล่าวถึง หลักสูตร AI Software Architect & Analyst (AIAA รุ่นที่1) จะช่วยให้ทุกคนรู้เท่าทัน AI ทั้งในด้านการพัฒนา การป้องกัน และขอบเขต โดยเฉพาะด้านจริยธรรม ธรรมมาภิบาล และความโปร่งใสในการนำมาใช้งาน ซึ่งการเข้ามาของ AI มีทั้งผลดีและผลกระทบในทุกสาขาอาชีพที่ผู้บริหารต้องเร่งศึกษา โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ภาคธุรกิจ รวมทั้งในด้าน ai government ,ai governance ที่ต้องมีความเข้าใจลึกซึ้ง ในการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานและประชาชน
ด้าน ดร.ภมล ชินะจิตร กล่าวว่า การนำ LLM มาใช้ในองค์กรจะต้องฝึกให้สามารถทำงานเฉพาะทางได้ นักพัฒนา AI LLM แอปพิเคชั่น จะต้องเข้าใจฝึกแบบต่างเริ่มต้นที่การทำ Pre-Training โดยนำองค์ความรู้ระเบียบ หลักปฏิบัติที่องค์กรต้องใช้เข้าสู่ LLM จากนั้นต้องสอนแบบ Supervised Fine-tuning (SFT) ให้ LLM ด้วย Dataset ชุดคำถาม คำตอบ และวิธีอื่นๆเพื่อให้ LLM สามารถตอบคำถามที่ตรงใจ
ขณะที่ ดร.เด่นเดช รักษ์รัตนตรัย กล่าวเสริมว่า กลไกการใช้ LLM คือการตั้งคำถามหรือการใช้ Prompt ในการใช้ RAG เราจะต้องเอาคำถามไปสืบค้นใน Vector Database ขององค์กรที่เก็บข้อมูลปัจจุบันแล้วดึงข้อมูลมาประกอบกับคำถาม แล้วสร้างเป็น Prompt ใหม่ที่จะส่งเข้าไปถาม LLM ขององค์กร
ส่วน อ.สุธัช เจริญผล ย้ำว่า การสร้างภาพและวิดิโอ ที่เป็น Asset ขององคืกรใช้ในการประชาสัมพันธ์ งาน e-Learning งานนำเสนอ และงานนวัตกรรมด้านสื่อเป้นสิ่งที่ท้าทาย และก่อให้เกิดการเพิ่มคุณค่าและการเรียนรู้ถึงกลไกการทำงาน ซึ่งช่วยให้ Developer สามารถ Customize ระบบให้ทำงานตรงกับความต้องการขององค์กร ขณะที่การทำ Deepfake VoiceFake เป็นเรื่องท้าทายความสามารถในการสร้างการตรวจจับ ทั้งภาพและเสียง โดยการสอนจะสาธิตการทำ Deepfake ด้วย Local Software ไม่ใช่ On-cloud ซึ่งสร้างความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การคิด วิธีการตรวจจับและการเฝ้าระวัง
นอกจากนี้ ผศ. วิฑูรย์ อบรม รองอธิการบดี ฝ่ายนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เผยว่า ปัจจุบันสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีแนวทางการดำเนินงานผ่าน “ปทุมวันโมเดล” โดยมุ่งเน้นในการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นการเริ่มต้นเปิดอบรม AAIA LLM รุ่นที่ 1 ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างองค์ความรู้รูปแบบใหม่เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าถึง และเข้าใจเทคโนโลยีที่อยู่ในกระแส จากผู้มีประสบการณ์ จนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น อนาคตทางสถาบันฯ มุ่งเปิดหลักสูตรที่มีความหลากหลาย ขยายแนวทางการเป็น “ปทุมวันโมเดล” คือ “สร้างคนให้ตรงกับงาน ให้เนื้องานที่ได้จากคนมีประสิทธิภาพ”.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...BangkokAI-ดอก สามัคคีสี่เหล่า.