Last updated: 21 มิ.ย. 2567 | 338 จำนวนผู้เข้าชม |
ผู้ว่าฯอุดรฯสั่งฝ่ายปกครองอำเภอเมืองฯ เปิดปฏิบัติการปราบปรามค้ามนุษย์ บุกจับร้านคาราโอเกะแฝงค้ากามเด็กในพื้นที่ หลังได้รับแจ้งจากมูลนิธิรณสิทธิ์
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าฯอุดรธานี สั่งการให้อำเภอเมืองอุดรธานี โดยนายวิมล สุระเสน นายอำเภอเมืองอุดรธานี เข้าทำการตรวจค้นจับกุมร้านคาราโอเกะ แฝงค้ามนุษย์ ย่านสัมพันธมิตร ชื่อร้าน PEW BAR (ปิ๋ว บาร์) ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองจ.อุดรธานี สืบเนื่องจากกรมการปกครองได้รับแจ้งจากมูลนิธิรณสิทธิ์ ว่ามีสถานประกอบการร้านดังกล่าวเปิดให้บริการในลักษณะเป็นร้านคาราโอเกะ มีการรับพนักงานหญิง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้ามาทำงานภายในร้าน อาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายการแสวงประโยชน์ทางเพศจากเด็ก พนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเมืองอุดรธานี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับมูลนิธิรณสิทธิ์ พบว่าสถานประกอบการดังกล่าวมีการเปิดให้บริการในลักษณะสถานบริการ มีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็กจริง จึงวางแผนตรวจสอบจับกุม
จากการเฝ้าติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดสืบทราบว่า เด็กผู้ให้บริการมีปัญหาทางครอบครัวหย่าร้าง พ่อแม่แยกกันทำงานพ่อมีเมียใหม่ไม่สนใจลูกสาวที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แต่กลุ่มเด็กเหล่านี้มีความขยันใฝ่รู้อยากเรียนหนังสือจึงต้องดิ้นรนด้วยตัวเองในการหาเงินดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ถือได้ว่าเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถูกเอาเปรียบจากกลุ่มผู้เฒ่าโรคจิตที่มีรสนิยมทางเพศกับเด็กทั้งชาวไทย และต่างชาติ
ทั้งนี้ยังพบว่าสถานประกอบการดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบสถานบริการ ตาม พ.ร.บ. สถานบริการ พ.ศ. 2509 ภายในร้านพบว่ามีพนักงานหญิงบริการจำนวน 10 คน อายุต่ำสุดเพียง 16 ปี ให้บริการลูกค้า นั่งดูแลปรนเปรอลูกค้าในลักษณะมีการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในรูปแบบอื่นจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงมีการแอบแฝงการขายบริการทางเพศเด็กจริง เข้าข่ายเป็นการค้ามนุษย์ จึงแจ้งข้อกล่าวหาหนัก ความผิดฐานค้ามนุษย์ (แสวงหาประโยชน์ทางเพศโดยมิชอบจากเด็ก), ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถและรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ
อย่างไรก็ตามการดำเนินการนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากกรมการปกครองมีการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และเน้นย้ำ อำเภอ จังหวัดโดยการใช้ข้อมูลในรูปแบบ 16 มูลฐาน มาร่วมพิจารณาเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดไว้ โดย 1 ใน 16 มูลฐานสำคัญคือ ค้าประเวณี ค้ามนุษย์ โดยมีมาตราให้พื้นที่ขอให้เร่งดำเนินการ X-Ray รวมทั้งประสานการปฏิบัติบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ทั้ง ทหาร ตำรวจ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับการจับมุมในครั้งนี้เบื้องต้นพนักงานฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายจำนวน 3 คน พบเป็นเด็กอายุ 16 ปี 2 คน อายุ 18 ปี 1 คน ตรวจสอบพบว่าเริ่มทำงานมาตั้งแต่อายุ 16 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้พาตัวไปเข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ National Referral Mechanism (NRM) สัมภาษณ์เพื่อคัดกรอง และคัดแยก โดยสหวิชาชีพ และเตรียมนำตัวส่งเข้าบ้านพักเด็กฯ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ จากการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามุษย์ต่อไป ภายหลังการจับกุมทีมงานมูลนิธิรณสิทธิ์จะได้ติดตามผลการดำเนินการอย่างใกล้ชิด และสนับสนุนช่วยเหลือให้เด็กเหล่านี้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน เช่น การศึกษา หรือสิทธิอื่นๆ ที่สมควรได้รับต่อไป
ว่าที่นายหมวดโทรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ กล่าวว่า การค้ามนุษย์ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยการถือเอามนุษย์ซึ่งมีชีวิตจิตใจเป็นสินค้าในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นผลประโยชน์ โดยเฉพาะการกระทำต่อเด็กและเยาวชนซึ่งยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ อีกทั้งการค้ามนุษย์เป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทยที่ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหา ผู้ประกอบการสถานบันเทิงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม สถานบริการเป็นสถานที่ต้องห้ามมิให้มีเด็กเข้าไปทำงาน รวมถึงหากพบมีพฤติการณ์แอบแฝงค้าประเวณีเด็กซึ่งเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ จะมีโทษตามกฎหมายสูงมาก ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ขจัดการค้ามนุษย์ หากพบเห็นเบาะแส หรือการกระทำที่เข้าข่ายค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมาที่มูลนิธิรณสิทธิ์และแจ้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 1567.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...กรมการปกครอง.