Last updated: 4 ส.ค. 2566 | 699 จำนวนผู้เข้าชม |
กสศ.สร้างเครือข่ายครูรัก(ษ์)ถิ่น “ครูคุณภาพ” และ“นักพัฒนาชุมชน”เผยสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนยากจนในพื้นที่ห่างไกลให้เป็นครูรุ่นใหม่ในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนปลายทางของชุมชน
สืบเนื่องจากการดำเนินโครงการพัฒนานักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น ตั้งแต่ช่วงปี 2563 – 2564 ที่ผ่านมา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา( กสศ. )ได้สร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนยากจนในพื้นที่ห่างไกล ให้เป็นครูรุ่นใหม่ในการพัฒนาคุณภาพโรงเรียนปลายทางของชุมชน โดยการสนับสนุนทุนการศึกษาจนจบหลักสูตรวิชาชีพครู เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูในการจัดการเรียนการสอนให้สามารถพัฒนาเด็กและเยาวชนได้ตามพื้นฐานและศักยภาพที่แตกต่างกัน
อีกทั้งมีความสอดรับกับบริบทความต้องการของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลโดยมีคุณลักษณะสำคัญของครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่สำคัญคือการมีสมรรถนะพื้นฐานวิชาชีพครู การมีสมรรถนะทางวิชาการ การมีสมรรถนะทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21 มีความสามารถจัดการเรียนการสอนได้หลากหลาย มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตวิญญาณความเป็นครู มีเจตคติ และสมรรถนะเฉพาะที่เหมาะในการทำงานโรงเรียนในชุมชนพื้นที่ห่างไกล และสุดท้าย สามารถสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อใช้ประโยชน์ในโรงเรียนและชุมชนได้
คุณลักษณะทางวิชาชีพ ทักษะชีวิต และทักษะทางวิชาการ จะเป็นสิ่งหนุนเสริมให้กับนักษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น สามารถจัดการเรียนการสอนในสถาบัน ทั้งยังเป็นการหนุนเสริมทักษะชีวิตที่ครอบคลุมประเด็นพหุวัฒนธรรม การเรียนรู้ความแตกต่าง การเข้าใขเคารพต่อความหลากหลายทางวิธีคิดและวัฒนธรรมการเรียรรู้กระบวนการสร้างเครือข่ายแห่งการเรียนรู้จึงมีความสำคัญยิ่ง การสร้างเครือข่ายและการมีพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน การประสานความร่วมมือ การให้ความช่วยเหลือ การแลกเปลี่ยนเทคนิคการจัดประสบการณ์การสอนและกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
ผศ.ดร.พิศมัย รัตนโรจน์สกุล ผู้จัดการโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ. ) กล่าวว่า โครงการทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น เป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลให้เป็นครูรุ่นใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชนบ้านเกิดโดยความร่วมมือของ 6 หน่วยงาน ศธ. อว. สพฐ. กคศ. คุรุสภา และกสศ. เป็นการสร้างโอกาสให้กับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่มีใจรักในวิชาชีพครู และมีศักยภาพในการเรียนรู้ ได้เรียนจบจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพ มีจิตวิญญาณความเป็นครู มีสมรรถนะพื้นฐานของวิชาชีพครู มีสมรรถนะการเรียนรู้ในศตวรรณที่ 21 มีสมรรถนะของการเป็นนักพัฒนาชุมชน และกลับไปเป็นครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง ครูรุ่นใหม่นวัตกรรมการผลิตและพัฒนาครู หลักสูตรการผลิตและพัฒนาครูแนวใหม่ และสถาบันต้นแบบในการผลิตและพัฒนาครูพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชนโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล 1,500 แห่ง มีครูเพียงพอ และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน
โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น สนับสนุนสถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ผลิตและพัฒนาครูกว่า 15 แห่ง ทั่วประเทศในการเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็ง มุ่งผลิตครูคุณภาพเพื่อสนองความต้องการของชุมชน ทั้งการพัฒนาหลักสูตรการผลิตและพัฒนาครู การจัดกระบวนการเรียนรู้แนวใหม่ และกิจกรรมสร้างเสริมความเป็นครูเพื่อให้ได้บัณฑิตครูคุณภาพตามเป้าหมาย สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อเป็นนวัตกรรมและองค์ความรู้ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการผลิตและพัฒนาครู (Systems change) อันจะนำไปสู่การร่วมมือกันยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศอีกด้วย
นายศุภชัย ไตรไทยธีระ ประธานมูลนิธิปัญญากัลป์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาเครือข่ายนักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น เพื่อเป็นการเชื่อมโยง สานสัมพันธ์ เครือข่ายนักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่นทั่วประเทศ ในปี พ.ศ.2565 มีขอบเขตทั้งสิ้น 16 มหาวิทยาลัยใน 4 ภาค กว่า 1,200 คน ประกอบด้วยภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี และ ภาคใต้ มหาวิทยาลลัยราชภัฏสุราษฏ์ธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า ตนมองว่าการพัฒนา การสร้างเครือข่ายนักศึกษาทุนครูรัก(ษ์)ถิ่น ให้มีประสิทธิภาพ สามารถเป็นเครือข่ายครูที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต จึงมีความจำเป๋นอย่างยิ่งที่ต้องมีการพัฒนาและยกระดับเครือข่ายนักศึกษาทถุนครูรัก(ษ์)ถิ่น จากกลุ่มนักศึกษษ สู่การจัดตั้งชมรม สมาคม เป็นเป็นองค์กรกลางในการประสานความร่วมมือ ยึดโยง ครูรัก(ษ์)ถิ่น ทั่วประเทศ เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือติดตาม ทั้งในด้านการเรียนการสอน การดำเนินชีวิต การพัฒนาศักยภาพของสมาชิกเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้และการสร้างเสริมการเป็นครู นักพัฒนาชุมชนบนฐานการใช้ทรัพย่ากรท้องถิ่นในการส่งเสริมการเรียนรู้ที่สามารถสร้างการเรียนรู้และอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ด้านนางสาวอาลิสา เสาหล้า นักศึกษาโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 1 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่ได้ออกไปเป็นครูฝึกสอน ที่โรงเรียนบ้านหนองปลามัน ตำบลห้วยทราย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ ไม่มีสถานะทางทะเบียน ทำให้มองว่า ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เด็กและเยาวชนไม่สามารถมีโอกาสได้ศึกษาต่อ ตนจึงมองว่า การเป็น ครูรัก(ษ์)ถิ่น ที่กลับมาสอนที่โรงเรียนในถิ่นของตนเอง มีความจำเป็น โดยเฉพาะการต้อง สร้างประโยชน์ และพัฒนาชุมชน สร้างเด็กและเยาวชน ให้มีโอกาศทางการศึกษามากขึ้น โดยเฉพาะ การสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา ต่างๆที่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อ เด็กเยาวชน รวมไปถึงชุมชน โดยการสร้างเครือข่าย ครูรัก(ษ์)ถิ่น มีความสำคัญมาก เพราะ สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างความรู้ หรือ กระทั่งการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในเครือข่าย
ขณะที่นางสาวนัศริตา อูเมาะมะลี นักศึกษาโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 3 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนอยากเป็นครู มาตั้งแต่เด็ก แต่ โอกาส ของตนมีน้อย จนได้มาเข้าร่วมโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น ซึ่งตนมองว่าตอบโจทย์กับ คนที่อยากเป็นครูแต่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งการไที่ได้ทุนสามารถทำให้ตนเองพัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าไปเติมเต็มให้กับโรงเรียนปลายทาง ที่มีขนาดเล็ก ยังมีความขาดแคลนในหลายๆด้าน ครูรัก(ษ์)ถิ่น จึงมีความสำตคัญในการที่ ครูในโครงการนี้ จะนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ กลับไป พัฒนาโรงเรียน โดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายครูรัก(ษ์)ถิ่น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์จากครูรัก(ษ์)ถิ่น ในพื้นที่ต่างๆ ว่าในแต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาค มีความแตกต่างอย่างไร มีปัญหา อุปสรรค ด้านใดบ้าง จนสามารถนำมาปรับปรุงพัฒนา ต่อยอด และสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ... มูลนิธิปัญญากัลป-รังสี ลิมปิโชติกุล-ราชบุรี.