“บิ๊กอู๊ด”ลุยตรวจพื้นที่สกัดโควิดฯ สั่งตม.สนามบินเสริมกำลังด่านชายแดน

Last updated: 11 พ.ค. 2564  |  594 จำนวนผู้เข้าชม  | 

“บิ๊กอู๊ด”ลุยตรวจพื้นที่สกัดโควิดฯ สั่งตม.สนามบินเสริมกำลังด่านชายแดน

“บิ๊กอู๊ด” นำคณะชุดใหญ่ตรวจชายแดน-น่านน้ำภาคตะวันออก เข้มแรงงานเถื่อนลอบเข้าไทย ลั่นจนท.เอี่ยวขนต่างด้าวมีโทษหนัก  เผยเอา ตม.สนามบินลงด่านชายแดนเสริมกำลัง

วันที่ 11 พ.ค. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.หฤษฐ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.สตม. เดินทางตรวจแนวชายแดนทั้งทางบก และทางทะเลภาคตะวันออก ซึ่งเชื่อมกับประเทศกัมพูชา โดยลงพื้นที่ จ.สระแก้ว,จันทบุรี และ ตราด เพื่อกวดขันการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในการสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เดินทางตรวจชายแดนภาคตะวันตกซึ่งติดกับพม่าไปแล้วก่อนหน้านี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่คณะเดินทางไปถึงได้ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าตรวจสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร (OQ) ที่กองร้อย ตชด.126 จากนั้นได้ไปตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และกองร้อยทหารพรานที่ 1205 พร้อมทั้งได้เดินทางตรวจช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ได้ตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลในระบบ Biometrics และการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามแนวชายแดน ทั้งยังได้กำชับการปฏิบัติในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดน และมอบสิ่งของบำรุงขวัญ และชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ด้วย



พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจมาตรวจชายแดนเขมรครั้งนี้ เนื่องมาจากด่านยังคงปิด และยังพบว่ามีการหลบหนีเข้าเมืองมาทางช่องทางธรรมชาติ ส่วนหนึ่งเป็นแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในเขมร และอีกส่วนเป็นแรงงานต่างด้าวเขมรที่ลักลอบเข้าไทย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. จึงสั่งการให้มาตรวจสอบ และกำชับการปฏิบัติร่วมกับ ตำรวจ ตชด. ทหาร ศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงรุนแรง ซึ่งการหลบหนีเข้าเมืองยังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ถ้าหากเชื้อกลายพันธุ์เข้ามาในไทยจะทำให้การต่อสู้กับโรคยากลำบากขึ้น

“ผมให้ตำรวจ ตม.สนามบินลงพื้นที่ทั่วประเทศที่ตอนนี้มีงานน้อยลง ลงมาช่วยตำรวจ ตม.ชายแดนทุกด้านของประเทศด้วย เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากยิ่งขึ้น”

ผบช.สตม.กล่าวต่อว่า โควิด-19 นับเป็นวิกฤติของประเทศที่ทุกหน่วยต้องร่วมช่วยกัน แต่การป้องกันแนวชายแดนที่ยาวกว่า 5,000 กิโลเมตร จะเอาเจ้าหน้าที่มาป้องกันคงยาก อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ ผบ.ตร. กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยเมื่อจับกุมแรงงานหลบหนีเข้าเมืองได้จะต้องขยายผลการจับกุมไปถึงคนนำพา และนายทุน และดำเนินคดีฐานฟอกเงินพร้อมกับยึดทรัพย์อย่างเด็ดขาด มาตรการต้องจริงจัง ดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำให้เด็ดขาด โดยในสัปดาห์หน้าตนจะเดินทางลงไปตรวจชายแดนไทยมาเลเซีย เพื่อกำชับไม่ให้คนไทยหลบหนีกลับเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติด้วย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคณะจะลงพื้นที่ตรวจชายแดน จ.สระแก้วแล้ว ช่วงบ่ายวันเดียวกันยังได้ลงพื้นที่ช่ยแดนไทยกัมพูชา ด้าน อ.โปงน้ำร้อน จ.จันทบุรี ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จากนั้นเดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เพื่อเตรียมที่จะลงเรือตรวจเส้นทางการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองตามแนวชายฝั่งทะเล ในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ค.)ด้วย.

ขอบคุณข้อมูล-ภาพ....สตม.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้