ท่องเที่ยววัดแหลมทอง จุดเช็คอินแห่งใหม่เมืองสุราษฎร์ฯ
Last updated: 18 พ.ย. 2563 | 1153 จำนวนผู้เข้าชม |
รองผู้ว่าสุราษฎร์ฯ จับมือ ททท.สุราษฎร์ธานี สำรวจจุดท่องเที่ยววัดแหลมทอง
วันก่อนที่วัดแหลมทอง ต.คลองฉนาก อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เส้นทางบายพาสจากสนามบินสุราษฎร์ธานีตรงไปยังนครศรีธรรมราช นายสุทธิพงศ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางสาวนันทวัน ศิริโภคพัฒน์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมจุดเช็คอินแห่งใหม่ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสุราษฎร์ฯได้แวะชมจุดเช็คอินสะพานข้ามคลองฉนาก พร้อมนมัสการขอพรกับสรีระพ่อท่านแบน เกจิลุ่มน้ำตาปี เพื่อขอพรด้านสุขภาพ และกิจการเจริญรุ่งเรืองก่อนเดินทางไปไหว้ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า อดีตวัดแห่งนี้เป็นวัดที่อยู่กลางน้ำมีพ่อท่านแบนเป็นเกจิอาจารย์ที่ชาวสุราษฎร์ฯ และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือ ท่านเป็นพระอาจารย์นักปฏิบัติ ถึงแม้จะละสังขารไปแล้วสรีระยังไม่เน่าเปื่อย มีมนต์วิชาที่แกร่งกล้า และมีความสามารถในการรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อจนเป็นที่เลื่องลือ ในอดีตวัดแห่งนี้เคยมีเรือนพยาบาลไว้ให้สำหรับผู้ป่วยที่เดินทางมารักษาและต้องพักค้างคืนไม่สามารถเดินทางกลับได้ นักท่องเที่ยวหรือพี่น้องประชาชนจะเดินทางมาทำบุญจะต้องมาทางน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันทางผู้นำท้องถิ่นได้สร้างสะพานข้ามคลองแล้วเสร็จ สามารถที่จะนำรถเข้าไปจอดภายในวัด และนมัสการสรีระของหลวงพ่อแบน เพื่อขอพรให้มีชีวิตรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรงก่อนที่จะเดินทางต่อไปขอโชคลาภกับไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ จึงขอเชิญชวนทุกท่านแวะ “เช็คอินวัดแหลมทอง นอนโฮมเตย์ ตักบาตรทางน้ำ นมัสการสรีระพ่อท่านแบน" ซึ่งอนาคตข้างหน้าทุกภาคส่วนก็จะร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของชาวสุราษฎร์ธานีต่อไป
ด้านนางสาวนันทวัน กล่าวว่า สำหรับวัดแหลมทองเป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำในอดีต ปัจจุบันมีการสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีสามารถเดินทางไป-มา ได้อย่างสะดวก มีจุดเช็คอินบริเวณคลุ้งน้ำหน้าวัดสวยงาม ภายในวัดมีมณฑปบรรจุสรีสระหลวงพ่อแบน ผู้คนนิยมมาไหว้ขอพรให้หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วยจนเป็นที่เคารพนับถือของชาวสุราษฎร์ธานี และยังมีจุดเช็คอินบริเวณสะพานข้ามคลองซึ่งเมื่อถ่ายลงไปจะเห็นสายน้ำที่ทอดยาว ดั่งสโลแกนที่ว่า "เช็คอินวัดแหลมทอง นอนโฮมเตย์ ตักบาตรทางน้ำ นมัสการสรีระพ่อท่านแบน "
นอกจากนี้ยังมีต้นฉ่ำฉา ที่มีอายุเกือบ 100 ปี จำนวน 2 ต้นไว้เป็นร่มเงาให้กับนักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่เดินทางมายังวัดได้สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ประกอบอาชีพด้วยการทำใบจากเพื่อนำไปสูบบุหรี่ นอกเหนือการทำประมงพื้นบ้านอีกด้วย.
ขอบคุณภาพ-ข่าว...รัตติยา พูลศิริ/สุราษฎร์ฯ////
