Last updated: 9 ต.ค. 2563 | 951 จำนวนผู้เข้าชม |
จังหวัดเลยเปิดภูกระดึงส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังโดนวิกฤติโควิดฯเล่นงานต้องปิดนานกว่า 7 เดือน
เมื่อวันก่อน ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเป็นประธาน พิธีเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง มีหัวหน้าส่วนราชการ นักท่องเที่ยว พ่อค้าและประชาชนร่วมงาน
นายสมบัติพิมพ์ ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงกล่าวว่า อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีพื้นที่รับผิดชอบจำนวน 217,576.25 ไร่ กล่าวคือเป็นภูเขาหินทรายสูงใหญ่โดดเด่น และมีส่วนยอดตัดเป็นพื้นราบบนยอดเขาอันกว้างใหญ่ พื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 37,500 ไร่ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ประกอบด้วย หน้าผา น้ำตก ทุ่งหญ้าป่าสน ไม้ดอกนานาพันธุ์ และสัตว์ป่านานาชนิด
จากความสวยงาม และความมหัศจรรย์ของภูกระดึงสามารถดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศให้เดินทางมาท่องเที่ยวภูกระดึงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ติดต่อกันหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวมาพักแรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งในทุก ๆ ปี อุทยานฯจะเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนภูกระดึงเป็นเวลา 8 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.-พ.ค.และปิดการท่องเที่ยวเป็นเวลา 4 เดือน คือตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ย.ของทุกปี แต่สำหรับปีนี้เนื่องจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิดฯ อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจึงปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.63 ถึง 30 ก.ย. 63 เป็นเวลา 6 เดือน ตามประกาศกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ฉบับลงวันที่ 23 มีนาคม 2563 เรื่องปิดการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทุกแห่งจากการแพร่ระบาดฯ
ในวันนี้ ฤดูกาลท่องเที่ยวได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้ร่วมกับอำเภอภูกระดึง จัดงานพิธีเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึงประจำปี การท่องเที่ยว 2564 มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กระตุ้น และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย อันจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น โดยได้มีการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแพร่กระจายของโรคโควิดฯ รวมถึงการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งด้านอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่พัก ร้านอาหาร การบริการหาบสัมภาระของลูกหาบ และด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวพร้อมให้ความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และความสะอาด โดยขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการงดใช้โฟมและพลาสติกในเขตอุทยานแห่งชาติ.