"ประธานวุฒิสภา"ชี้ศิลปินแห่งชาติ เป็นเสาหลักแวดวงศิลปะไทย

ประธานวุฒิสภา ชี้ศิลปินแห่งชาติ เป็นเสาหลักแวดวงศิลปะไทย สร้างแรงบันดาลใจคนรุ่นใหม่ร่วมสรรค์สร้างงานศิลปะต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ประเทศ

เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ห้องประชุม 406 - 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.)ด้านศิลปะสร้างสรรค์ ในคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง “ศิลปินแห่งชาติเพื่อพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมไทย” โดยมีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานกล่าวเปิดการเสวนา และนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯวุฒิสภา กล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ สมาชิกวุฒิสภา และศิลปินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงานเสวนา

นายมงคล ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นบุคคลผู้ทรงคุณค่า เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถในศิลปะแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านทัศนศิลป์ วรรณศิลป์ หรือศิลปะการแสดง ศิลปินแห่งชาติเปรียบเสมือนเสาหลักของแวดวงศิลปะไทย ท่านเหล่านี้ได้อุทิศตนสร้างสรรค์ผลงานอันที่มีคุณค่า เป็นที่ยอมรับและมีผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากมาย นอกจากนี้ งานศิลปะยังก่อให้เกิดคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจ และสังคม และยังเป็นการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ วัฒนธรรม ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในประเทศได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย

ดังนั้นการจัดเสวนาในวันนี้นับเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนำเสนอความคิดเห็น ปัญหา และอุปสรรค รวมถึงร่วมกันหาแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านศิลปะ และพัฒนาวัฒนธรรมให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ตลอดจนการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในอนาคตให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งานศิลปะเพิ่มมากขึ้น

นางเอมอร ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ วุฒิสภา กล่าวว่า สืบเนื่องจากในวันที่ 24 ก.พ.ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งนับถือกันว่าทรงมีพระปรีชาสามารถในด้านศิลปกรรม ทรงอุปถัมภ์บำรุงศิลปกรรมแขนงต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุน และช่วยเหลือศิลปินผู้สร้างสรรค์ ผลงาน ศิลปะอันทรงคุณค่าของแผ่นดิน รัฐบาลไทยจึงได้มีการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินผู้ทำประโยชน์ด้านศิลปกรรม ให้เป็น "ศิลปินแห่งชาติ"

โดยได้กำหนดให้วันที่ 24 ก.พ.เป็น "วันศิลปินแห่งชาติ" โดยกิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นโดยการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะสร้างสรรค์ ที่มีศาสตราจารย์ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ เป็นประธาน ได้มีการกำหนดพันธกิจในการคุ้มครองศิลปิน ผู้สร้างสรรค์ผลงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงศิลปกรรม ให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งส่งเสริมการประยุกต์ใช้พลังแห่งศิลปะ อันเป็นรากฐานของวัฒนธรรม เพื่อการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน  ดังนั้นในโอกาสวันศิลปินแห่งชาติ ปี 2568 คณะอนุกรรมาธิการด้านศิลปะสร้างสรรค์ จึงได้จัดการเสวนาวิชาการขึ้น เพื่อรวบรวมแนวคิดและแนวทางในการบูรณาการ พัฒนา และสืบสานการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่าของศิลปินแห่งชาติทุกแขนง ต่อยอดให้เกิดเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศที่จะช่วยในการพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ในการเสวนาได้รับเกียรติจากศิลปินแห่งชาติทั้ง 3 สาขา เข้าร่วมเพื่อให้ข้อมูล องค์ความรู้ สำหรับนำไปพัฒนางานศิลปกรรมของไทย ได้แก่ 1) สาขาทัศนศิลป์ ประกอบด้วย ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร อาจารย์ศราวุธ ดวงจำปา อาจารย์ชาตรี ลดาลลิตสกุล และอาจารย์อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ 2) สาขาศิลปะการแสดง ประกอบด้วย อาจารย์ภัทราวดี มีชูธน อาจารย์ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี และอาจารย์ไพฑูรย์ เข้มแข็ง และ3) สาขาวรรณศิลป์ ประกอบด้วย อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อาจารย์ชมัยภร บางคมบาง อาจารย์เอนก นาวิกมูล และอาจารย์อรสม สุทธิสาคร.