Last updated: 4 ก.พ. 2568 | 92 จำนวนผู้เข้าชม |
"รมว. พิพัฒน์" เสนอ ครม. เห็นชอบขยายเวลาต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU แรงงานกัมพูชา-เมียนมาอีก 6 เดือนถึง 13 ส.ค. 68 ลาว-เวียดนาม 3 เดือนถึง พ.ค. 68
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เรื่อง การขยายระยะเวลาการต่ออายุใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ใน 2 ประเด็น คือ ผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาและเมียนมาที่นายจ้างได้ยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และอนุญาตให้ทำงาน เป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 13 สิงหาคม 2568 เพื่อให้นายจ้างยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว (บต. 33)
พร้อมเอกสารและหลักฐาน ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และตรวจลงตราวีซ่าเพื่ออยู่และทำงานในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2570 และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี พร้อมกับผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติลาวและเวียดนามที่ได้รับอนุญาตทำงานตามมติคณะรัฐมนตรีถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 - 13 พฤษภาคม 2568 เพื่อให้นายจ้างยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว พร้อมเอกสารหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอ (บต. 33) ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ตรวจลงตราวีซ่าเพื่ออยู่และทำงานในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2569
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ครม.ให้ความเห็นชอบในหลักการร่างประกาศของกระทรวงแรงงาน จำนวน 2 ฉบับ รวมถึงอนุมัติในหลักการร่างประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำนวน 2 ฉบับ รวม 4 ฉบับ โดยแรงงานกลุ่มดังกล่าวจะได้รับการผ่อนผัน เมื่อประกาศกระทรวงมหาดไทย และประกาศกระทรวงแรงงานมีผลบังคับใช้ กรมการจัดหางานจึงขอประชาสัมพันธ์ให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติ เร่งยื่นบัญชีรายชื่อความต้องการจ้างแรงงานต่างด้าว ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 และขอให้ดำเนินการทุกขั้นตอนให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ระหว่างนี้ขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางาน ที่เว็บไซต์กรมการจัดหางาน doe.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน และสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694.