กสร.ผลักดัน"ตั้งคณะกรรมการระดับชาติฯ" ขับเคลื่อนเป้าหมายไทยปลอดใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายภายในปี 70

กสร. ผลักดัน “ตั้งคณะกรรมการระดับชาติฯ” ขับเคลื่อนเป้าหมาย “ประเทศไทยปลอดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายภายในปี 2570”


เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.67 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการระดับชาติชุดใหม่ เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายของประเทศไทย โดยการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาคมที่เกี่ยวข้อง

เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย เป็นกลไกหลักของประเทศไทย ในการประสานความร่วมมือเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด โดยการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาคมที่เกี่ยวข้อง มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการประกอบด้วย ผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรนายจ้าง องค์กรลูกจ้าง องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจหน้าที่กำกับ ดูแล การดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย รวมทั้งติดตามและประเมินผล พิจารณากำหนดและปรับปรุงนโยบาย แผนงานให้ทันสถานการณ์ ตลอดจนรายงานสถานการณ์เพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเป็นประจำทุกปี

อธิบดี กสร. กล่าวต่อว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากคณะกรรมการชุดเดิม (ตามคำสั่งกระทรวงแรงงานที่ 153/2563) ได้สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ โดยคณะกรรมการชุดใหม่จะขับเคลื่อนภารกิจตามแผนปฏิบัติการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งกำหนดเป้าหมายให้ “ประเทศไทยปลอดจากการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ภายในปี พ.ศ. 2570” และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 182 ว่าด้วยการห้ามและการดำเนินการโดยทันที เพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบัน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2544 ทั้งนี้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จะได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการระดับชาติฯ เพื่อเสนอแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป.