Last updated: 29 ต.ค. 2567 | 196 จำนวนผู้เข้าชม |
ประกันสังคมส่งเสริมการมีบุตร เร่งผลักดันเงินสงเคราะห์บุตร 3,000 บาท นาน 7 ปี ขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรี “พิพัฒน์”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้แนวคิดการเพิ่ม “เงินสงเคราะห์บุตร” ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.)โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่เป็นคนไทย หากใครที่มีบุตรเพิ่มขึ้น และไปเลี้ยงดูในชนบท หรือในต่างจังหวัด กองทุนประกันสังคมจะขับเคลื่อนเงินสงเคราะห์บุตรจากเดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 3,000 บาท ระยะเวลา 7 ปี
นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นโยบายของท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการให้ผู้ใช้แรงงานตามมาตรา 33 มีบุตรเพิ่มนั้น เนื่องจากประเทศไทยในปัจจุบันมีอัตราการเกิดที่ลดลงมาก เพราะผู้ใช้แรงงานปัจจุบันนี้มีความกังวลว่าเมื่อคลอดบุตรออกมาแล้วจะมีภาระการเลี้ยงดูบุตร เป็นภาระที่ยิ่งใหญ่มาก โดยเฉพาะในสังคมเมือง เพราะการที่จะต้องส่งลูกหรือส่งบุตรหลานเข้าโรงเรียนหรือเข้าสถานศึกษามีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง แนวคิดที่รัฐมนตรีแรงงานได้ฝากให้สำนักงานประกันสังคมพิจารณานำเรียนปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ในฐานะประธานบอร์ด เพื่อนำเรื่องนี้เข้าหารือกับบอร์ดประกันสังคมต่อไป ส่วนที่ผ่านบอร์ดประกันสังคมแล้วคือ การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร สิทธิผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 ที่มีบุตรช่วงอายุ 0 – 6 ปี ซึ่งจากเดิม 800 บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายตามขั้นตอนทางกฎหมาย คาดว่าเตรียมประกาศใช้ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ซึ่งจะมีบุตรของผู้ประกันตนที่เข้าเกณฑ์ประมาณ 1.2 ล้านคน เป็นบุตรแรงงานไทย ร้อยละ 98 และบุตรแรงงานข้ามชาติประมาณร้อยละ 2
“เงินสงเคราะห์บุตร” เป็นเงินที่ประกันสังคม ช่วยเหลือค่าครองชีพพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เป็นผู้ประกันตน และจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ทุกๆ สิ้นเดือน แต่หากตรงกับวันหยุด หรือวันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนไม่เกินเที่ยงคืน ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการศึกษารายละเอียดตามหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย และนำเสนอคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องพิจารณาก่อนนำเสนอบอร์ด เพื่อส่งเสริมการมีบุตร และสร้างเสริมการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรของประชาชนและภาคแรงงานให้สามารถเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติต่อไป.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน