Last updated: 10 ก.ย. 2565 | 397 จำนวนผู้เข้าชม |
คณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ลงพื้นที่เมืองเลย กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัย-ทำกินในพื้นที่ป่าไม้
เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.)ที่ห้องประชุมศรีสองรัก ศาลากลางจังหวัดเลย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พร้อมด้วยนายประสาร มฤคพิทักษ์ ที่ปรึกษาคณะฯ คณะอนุกรรมาธิการศึกษาฯ คณะอนุกรรมการฯ ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นร่วมกับผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวกับการกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัย และทำกินในพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่อำเภอด่านซ้าย มีนายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ พ.อ.สมหมาย บุษบา รอง ผอ.รมน.จว.เลย(ท) ผู้แทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเลย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรด่านซ้าย ประชาชนชาวบ้านน้ำพุงที่ได้รับผลกระทบ 39 รายร่วมด้วย
นายสังศิต เปิดเผยว่า เรามาแก้ปัญหาเรื่องที่ดินของประชาชนจังหวัดเลยทีมีการถูกยึดที่ดินและดำเนินคดีกับเกษตรกร วันนี้เราพบว่ามีผู้ถูกสั่งฟ้องศาล และศาลยกฟ้อง 6 ราย ผู้ที่มาประชุมในวันนี้เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดี สำหรับผลการหารือนั้น ได้แนวทางที่จะสร้างความปรองดองความสงบสุขแก่เกษตรกรโดยเฉพาะที่บ้านน้ำพุ ต.ศรีสองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย ผู้ดำเนินจะมีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด เข้าดำเนินการร่วม 4 ฝ่ายด้วยกัน ผู้ที่มาแสดงตนหากเป็นเกษตรกรตัวจริงที่ไม่ใช่นายทุนจะอนุญาตให้เข้าไปทำกินในพื้นที่ของตนเองทันที เพราะบางคนมีพืชผลอยู่แล้วก็กลับเข้าไปทำกินได้ เช่น กรีดยาง พืชไร่ พืชสวน ไม้ผล เป็นต้น แต่ต้องไม่ใช่นายทุน
เจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องไปให้พนักงานส่งอัยการว่าไม่สมควรสั่งฟ้องศาล ทั้งหมดจะเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ 600 ไร่ที่ประกาศแนวป่าทับพื้นที่ก็จะเข้าไปดูแลให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไป หากผู้ที่กลัวว่าหากมาแสดงตัวตนจะถูกดำเนินคดีก็ให้มาแจ้งที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย คณะกรรมาธิการฯเองจะเข้ามาช่วยเสนอแนะหากไม่มีแหล่งน้ำก็แนะให้ขุดบ่อน้ำขนาดเล็กให้ทำการเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งเราจัดทีมการตลาดสามารถส่งผลผลิตเข้าห้างสรรพสินค้าได้ ตัดวงจรพ่อค้าคนกลางออก เป็นประโยชนด้านสุขภาพทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค จึงนับว่าที่ จ.เลย เป็นพื้นที่นำร่องของประเทศที่แก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ กรมป่าไม้ก็ยินดีร่วมมือ กอ.รมน.ต่างพอใจดีใจหากจบปัญหาได้อย่างนี้ เกษตรกรที่ให้ทนายความยื่นฟ้องร้องก็จะให้ถอนตัวจากการเป็นพยานก็จะตัดปัญหาความขัดแย้งกัน
นายสังศิต กล่าวอีกว่า วันที่ 9 ก.ย.คณะฯจะลงพื้นที่บ้านน้ำพุ ที่วัดป่าบ้านน้ำพุพัฒนา ต.ศรีสอองรัก อ.ด่านซ้าย จ.เลย อ.ด่านซ้าย จากนั้นวันที่ 10 ก.ย.จะร่วมเสวนาเกี่ยวกับข้อเสนอการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัย และทำกินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ร่วมกับประชาชนและผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่วัดโพนสว่าง ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลยด้วย ส่วนเกษตรกรผู้ที่หลบหนีคดีก็ให้มาแจ้งกับ ผอ.ป่าไม้ได้ ทั้งนี้เพื่อให้ คณะกรรมการมีราษฎรผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนผู้ประสบปัญหาที่แท้จริงไป แก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินและที่อยู่อาศัยได้ตรงจุด ราษฎรผู้ที่ไม่รู้กฎหมายจะได้รับความเป็นธรรมในการครอบครองเพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นทีให้มีความมั่นคงในชีวิต หลังจากที่ไม่ได้ทำมาหากินหลายปีต้องหลบหลีกต่าง ๆ.
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ...ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์-เลย.