ชื่นชม‘มท.’รับฟังเสียงสังคม ขอบคุณพลังโซเชียลฯ“คืนปูสู่อ่างทอง”

“มหาดไทยยุคใหม่” รับฟังเสียงสังคม-พลังจากโซเชียลฯ ส่ง“ผู้ว่าปู”กลับบ้านอ่างทอง เผยเป็นกระจกสะท้อนความต้องการของประชาชนนำไปสู่เรื่องที่ต้องแก้ไขปรับปรุงไปในทิศทางที่ควรจะเป็น   

-โลกยุคใหม่เป็นยุคที่พลังเสียงของคนในสังคมสามารถเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างได้ เนื่องจากพวกเขามองว่ามันไม่ถูกต้องควรปรับปรุงแก้ไข มันคือกระจกเงาส่องตัวเอง หรือหน่วยงาน-องค์กรต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี(หากใจกว้างพอ)หลายเรื่อง-หลายเหตุการณ์-หลายปัญหาได้รับการแก้ไขทันทีเมื่อเกิดเสียงสะท้อนจากประชาชน  ปัจจุบันเราเรียกเสียงสะท้อนนี้ว่า“พลังโซเชียลฯ”เป็นพลังที่บางครั้งสามารถชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้!! ทำดีพลังฯก็จะส่งผลให้เจริญก้าวหน้า ทำชั่วก็จะโดนถล่มแทบจะไม่มีที่ยืน!!!

 
-ขอย้ำว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติติง หรือชื่นชม ถือเป็นเรื่องปกติของสังคมในระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิในการแสดงออก แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมือง...พูดถึงเสียงสะท้อน วีคนี้อยากนำเรื่องพลังโซเชียลฯที่สามารถผลักดันให้ “บิ๊กมหาดไทย”มีคำสั่งเสนอให้ “ผู้ว่าปู”นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี  ผวจ.สมุทรสาคร ไปดำรงตำแหน่งผวจ.อ่างทอง โดยก่อนหน้านี้ “ผู้ว่าปู”ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ หลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพ และการบริหารสถานการณ์โควิด กระทั่งมีรายงานว่ากระทรวงมหาดไทยได้ระงับหนังสือลาออกไว้ ก่อนจะนำเรื่องเสนอให้ ครม.มีมติดังกล่าว!!!

-“ผู้ว่าปู”เปิดใจหลังจากมีคำสั่งย้ายกลับบ้านเกิดว่า ตนเองไม่เคยยอมแพ้กับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ที่ต้องการขอย้ายก็มาจากปัญหาด้านสุขภาพร่างกายเท่านั้นเอง ตอนนี้ยังคงมีหน้าที่สำคัญคือการปฏิบัติงานในฐานะผู้ว่าฯสมุทรสาคร ต้องทำงานให้เต็มที่และดีที่สุดจนถึงวันสุดท้ายของการทำงานที่นี่ ผู้ว่าฯ ไม่ใช่คนที่นี่ ไม่ไปวันนี้วันหน้าก็ต้องไป แต่คนสมุทรสาครยังคงต้องอยู่ที่นี่ ฉะนั้นคนสมุทรสาครยังคงต้องรัก และสามัคคีกันไว้ มติที่ออกมานั้นตนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา เพราะเป็นข้าราชการคนหนึ่ง แต่ก็ต้องขอขอบคุณที่เห็นว่าตนยังคงมีประโยชน์ต่อการทำงานในตำแหน่งนี้ต่อไป...(เป็นข้อความที่คัดมาเพียงบางช่วงบางตอนเท่านั้น)!!!

-ในมุมมองส่วนตัวขอชื่นชมผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยที่ท่านยอมรับฟังเสียงของประชาชน กล้าที่จะแก้ไข-กล้าตัดสินใจ พร้อมมองลึกลงไปถึงความคิดหัวจิตหัวใจของชาวบ้านว่าพวกเขาคิดอะไร-ต้องการอะไรถึงได้สะท้อนเสียงออกมาให้เห็น ข้าราชการน้ำดีต้องได้รับการดูแล...ผิดกับบางองค์กร บางหน่วยงาน หรือคนบางคนที่ไม่ยอมรับฟังเสียงประชาชนเลยแม้แต่น้อย!! มองให้ลึกกระแสสังคม-กระแสโซเชียลฯมันคือกระจกสะท้อนการทำงานของท่าน ผิดพลาดไปก็ควร...รับฟัง แก้ไขปรับปรุงประเทศชาติจะเจริญ!!!

ขอบคุณภาพประกอบจากเดลินิวส์ออนไลน์  

-เรื่องร้อนฝากรบกวนผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง คงไม่ต้องรอกระแสโซเซียลฯ...ช่วยตรวจสอบความขัดแย้ง-ไม่เข้าใจเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ (กรณีจับบ่อนพนันแห่งหนึ่ง)ระหว่างเจ้าหน้าที่ปกครองด้วยกันเองในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี คลายความบาดหมางไม่เข้าใจกันของผู้ใต้บังคับบัญชาด่วน!! เนื่องจากปมความขัดแย้งยังไม่ได้รับการแก้ไข หากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นปัญหาในการทำงานได้  “เหยี่ยวขาว” เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาในองค์กร “ผู้ใหญ่”ควรลงไปตรวจสอบหาให้กระจ่าง!! ใครพูดไม่จริง-ใครทำงาน...ง่ายมากถามชาวบ้าน-ถามสื่อฯเขารู้กันหมด!!!  

-ตบท้ายขอแสดงความยินดีกับกรมการปกครอง หลัง ป.ป.ช. ประกาศผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 8,300 หน่วยงาน โดยหน่วยงานที่ได้รับการประเมินจะแบ่งออกเป็น 8 ประเภท มีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ซึ่งในประเภทที่ 2 ประเภทส่วนราชการระดับกรม หน่วยงานที่มีผลการประเมินสูงสุด คือ กรมการปกครอง ได้คะแนนเฉลี่ย 99.12 คะแนน เบื้องหลังผลการประเมินที่ออกมาสูงของกรมการปกครองในปีนี้ ต้องยกเครดิตให้กับ "ธนาคม จงจิระ"อธิบดีกรมการปกครอง ที่มีนโยบายชัดเจนที่มุ่งเน้นการปฏิบัติราชการด้วยหลักคุณธรรมและความโปร่งใส ซึ่งเห็นได้จากโครงการต่อต้านการทุจริตและการประกาศเจตจำนงสุจริตฯ ของกรมการปกครองในปี 2564 นี้“ไม่โกง โปร่งใส ร่วมใจต้านทุจริต คือ จิตสำนึกคนกรมการปกครอง”!!

“เก็บตกปกครองฯ”
   “เหยี่ยวขาว”